การเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน
อาทิตย์ บุญมีรักษ์ เป็นเกษตรกรมือใหม่
อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 1 บ้านค้อ ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบทำการเกษตร แต่ติดตรงที่ว่ามีเวลาว่างไม่มากนัก เพราะต้องทำงานด้วย โดยกำเนิดแล้ว ผมก็เป็นลูกชาวนาอยู่แล้วครับ จึงหันมาสนใจการทำเกษตรพอเพียงโดยการทดลองเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก เลี้ยงอยู่ประมาณ 2 ปีได้ แต่ส่วนมากแล้ว ที่เลี้ยงไว้จะใช้ทำเป็นอาหารครับ เป็นการลดค่าใช้จ่ายไปในตัว อย่างน้อยเราก็มีปลาที่เราเลี้ยงไว้ วันไหนไม่มีกับข้าว เราก็จับมันมาทำเป็นอาหารได้ครับ ไม่มีอดครับ
ตอนนี้ผมหันมาศึกษาการเลี้ยงกบครับ เลี้ยงมาเป็นเวลา 2 ปีแล้วครับ
แต่ไม่ได้เลี้ยงในเชิงธุรกิจ ครั้งแรกที่เริ่มเลี้ยง ผมได้พ่อพันธุ์
แม่พันธุ์มาเพียงแค่ 2 คู่ ก็เลยทดลองเพาะลูกอ๊อด
โดยการศึกษาจากอินเตอร์เน็ตครับ ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง
เพาะครั้งแรก ไม่ประสบความสำเร็จ
เพาะครั้งที่สองจึงประสบความสำเร็จ ได้ลูกอ๊อดมาหนึ่งคอก ประมาณ 100 ตัว
เลี้ยงไป ๆ มา ๆ จนลูกอ๊อดกลายเป็นกบที่รอดตายจริง ๆ เพียงแค่ 10
ตัวเองครับ
เพาะครั้งที่สาม
จึงได้มาศึกษาการเพาะลูกอ๊อด และอนุบาลลูกอ๊อด
ครั้งนี้ผมได้ลูกอ๊อดมาประมาณ หนึ่งคอกเช่นกัน
แล้วก็ได้ทดลองอนุบาลจนลูกอ๊อดมีขางอกออกมา และกลายเป็นลูกกบ ประมาณ 1,000
กว่าตัว ครั้งนี้ดีใจมากที่เพาะลูกอ๊อดได้สำเร็จ
การเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน
การเลี้ยงกบเป็นอาชีพ
หนึ่งที่สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกร
ซึ่งในการเลี้ยงนั้นควรมีความเข้าใจถึงวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้องก่อนจึงจะทำ
ให้การเลี้ยงประสบความสำเร็จได้
บ่อเพาะลูกกบ
วัสดุที่ใช้
1. ตาข่าย
2. ผ้ายาง
3. ลวด
4. ครีมตัดลวด
ขั้นตอนการทำบ่อ
- ขุดบ่อขนาด 1.50 x 2.00 เมตร ความลึกตรงกลางของบ่อ ประมาณ 15 เซนติเมตร
- ขอบบ่อปรับพื้นดินให้มีความลาดเอียง
- นำผ้ายางมาปู แล้วนำดินมากลบขอบผ้ายางให้มิดชิด
- นำตาข่ายมาล้อมรอบบ่อ เพื่อป้องกันศัตรูกบ
- นำหญ้ามาปลูก เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อให้พ่อแม่พันธุ์ขึ้นไปหลบซ่อนตัวได้
- ต่อท่อน้ำติดสปริงเกอร์ เพื่อทำเป็นฝนเทียม
การ
บ่อเพาะลูกกบ |
บ่อนี้เป็นบ่อที่ผมทดลองเพาะลูกอ๊อดและประสบความสำเร็จในการเพาะ
และสามารถเพาะลูกอ๊อดได้ในแต่ละครั้งถึง 2-3 กิโลกรัม
และเราสามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท
มาดูบ่อที่เตรียมไว้เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ครับ
บ่อนี้ครับ มีอายุ 5 - 6 เดือน ครับ อีกไม่นาน ก็คงจะพร้อมที่จะลงบ่อเพาะเลี้ยงได้ครับ ลองมาดูอีกบ่อหนึ่งครับ
ที่ผมเลี้ยงไว้ การให้อาหาร ผมจะแยกให้กบขึ้นไปกินบนบก เพื่อป้องกันน้ำเสียครับ ซึ่งโดยปกติแล้ว ผมจะเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวัน แต่ตอนนี้ผมจะเปลี่ยนถ่ายน้ำทุก 2 วันครับ จะสังเกตเห็นว่าน้ำในบ่อน้ำนี้ไม่ได้ใหญ่มากนะครับ ลึกประมาณ 3 นิ้วครับ ประหยัดน้ำ อาหารที่ให้ก็ไม่ละลายน้ำเสียจนหมดครับ
ลองมาดูอีกบ่อครับ บ่อนี้อา่ยุ 4-5 เดือนครับ แต่เหลือไม่เยอะครับ ประมาณ 100 ตัวเศษ ๆ เพราะจับมาทำเป็นอาหารบ้าง จับขายภายในหมู่บ้านครับ กิโลกรัมละ 100 บาท
ถ้าจะพูดถึงว่าที่เลี้ยง ๆ มาคุ้มมั้ย กับการลงทุนไป คือเราต้องมองว่า ที่เราเลี้ยง ๆ เพื่ออะไร เราเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่าย หรือเลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหาร แต่ผมคิดว่ามันคุ้มถ้าเราเลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหาร แต่ถ้าเราไม่กิน เราก็จับขายเพื่อได้
แต่ถ้าจะเลี้ยงในเชิงการค้า ต้องเตรียมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไว้เยอะ ๆ ครับ ต้องมีการจัดการที่ดีด้วย
สิ่งที่ควรคำนึงและเตรียมตัวก่อนเลี้ยงกบ
ต้องศึกษาหาความรู้เบื้องต้นในการเลี้ยงกบจากฟาร์มกบโดยตรงหรือผู้ที่เลี้ยง
กบอยู่แล้ว อย่าอาศัยแค่อ่านจากเว็ปหรือหนังสือ
เพราะการปฏิบัติจริงต้องละเอียดอ่อนมาก ๆ การจัดการที่ดี
1. เริ่มตั้งแต่การดูแลบ่อพัก พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และการให้อาหาร
2. เปลี่ยนถ่ายน้ำในบ่อเลี้ยงทุก 2 วัน
3. ทำความสะอาดบริเวณที่ให้อาหารก่อนการให้อาหารทุกครั้ง เนื่องจากบริเวณที่เราให้อาหาร จะมีเศษอาหารที่กบกินไม่หมด เก็บทำความสะอาดออกไป
3. ต้องคอยสังเกตด้วยว่ามีกบตัวไหนที่กินอาหารไม่ทันเพื่อน ให้จับแยกไปไว้บ่อใหม่เลยครับ เพราะถ้าไม่แยกจะทำให้การเจริญเติบโตของกบช้า
มาดูบ่อเพาะลูกอ๊อดครับ
บ่อเพาะลูกอ๊อด |
วันที่ 7 ส.ค. 2554 วันนี้ผมได้นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ลงบ่อเพาะลูกอ๊อด จำนวน 3 บ่อครับ และรุ่งเช้ามา พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ จับคู่ และวางไข่แล้วครับ รอดูต่อไปครับว่าจะเป็นยังไง เดี๋ยวจะนำภาพมาให้ดีอีกทีหนึ่ง
วันที่ 9 ส.ค. 2554 วันนี้บ่อเพาะลูกอ๊อดของผมทั้ง 3 บ่อ ฟักเป็นตัวแล้วครับ
การอนุบาลและการให้อาหาร
- หลังจากที่ลูกกบฟักเป็นตัวอีกประมาณ 2 วัน เราค่อยให้อาหาร
- สัปดาห์ที่ 1 ให้กินไข่แดงไปก่อน วันละ 1 ครั้ง
- เปลี่ยนถ่ายน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การเปลี่ยนน้ำให้เอาน้ำในบ่อออกประมาณ 2 ใน 3 ของน้ำที่มีในบ่อ หลังจากนั้นใำห้เพิ่มน้ำเข้าไปให้ได้ระดับเดิม (หรืออาจจะเปลี่ยนน้ำเมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำเริ่มเน่าเสียแล้ว)
- สัปดาห์ที่ 2 ให้กินไข่แดงตอนเช้า ตอนเย็น ให้หัวอาหารกบเบอร์เล็กสุด บดให้เป็นผง แล้วโรยให้ทั่วบ่อ
สังเกต ด้วยว่า หากอาหารในบ่อยังเหลือ ตอนเย็นก็ไม่ต้องให้อาหารเพิ่ม เพราะจะทำให้น้ำเน่าเสีย
- เปลี่ยนถ่ายน้ำเมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำเริ่มเน่าเสียแล้ว
- สัปดาห์ที่ 3 ให้เฉพาะหัวอาหาร บดให้แตก แต่ไม่ต้องให้แตกละเอียดมาก วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น
- สัปดาห์ที่ 4 เมื่อสังเกตเห็นว่า ลูกอ๊อดมีขางอกออกมาแล้วก็สามารถจับจำหน่ายได้
ผ่านมา 10 วันแล้วครับ ลูกกบเริ่มโตแล้วครับ ผมจะให้อาหารลูกกบตอนเช้า โดยการให้หัวอาหาร บุให้แตก แล้วโรยให้ทั่วบ่อ ทุก ๆ วันก่อนการให้อาหาร ให้สังเกตดูด้วยว่าอาหารที่ให้ไปนั้น ลูกกบกินหมดหรือยัง ถ้ายังเราอาจจะไม่ให้เพิ่ม หรือให้เพิ่มก็เพียงเล็กน้อย เพื่อที่น้ำในบ่อจะได้ไม่เน่าเสีย และต้องคอยเพิ่มปริมาณน้ำทุก ๆ 2 วัน
การอนุบาลลูกอ๊อดให้เป็นกบ
คัดแยกลูกอ๊อดที่มีขางอกออกมาครบทั้ง 4 ขาแล้ว ออกจากบ่อลูกอ๊อด นำไปลงบ่ออนุบาลลูกกบ เพื่อป้องกันการกัดกินกันของลูกอ๊อด ลูกอ๊อดจะรอดตายเป็นลูกกบให้เราก็ช่วงนี้แหละครับ เราต้องคอยคัดแยกลูกอ๊อดทุก 2-3 วันครับ
การเลี้ยงกบตอนที่ 2
การเลี้ยงกบในบ่อดิน จากการที่ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง จนมาถึงวันนี้ สามารถเพาะเลี้ยงกบได้ประสบผลสำเร็จ ตอนนี้ผมมีบ่อเพาะลูกอ๊อด 2 บ่อ บ่อคัดแยกลูกอ๊อด 4 บ่อ บ่อขุน 2 บ่อ และบ่อเก็บพ่อพันธุ์อีก 2 บ่อ
การเลี้ยงกบ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ลองทำจริง ๆ แล้ว ยุ่งยาก เพราะต้องดูแลเอาใจใส่อย่างดี ผลตอบแทนจากการเลี้ยงกบที่ผ่านมา
ราคาขายกบในช่วงหน้าฝน
ตอนนี้กบที่ผมเลี้ยงไว้ น้ำหนักอยู่ที่ 7 - 8 ตัว/กิโลกรัม
- ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 60 - 70 บาท
- ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 80 - 100 บาท
ราคาขายกบนอกฤดูกาล
- ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 70 - 80 บาท
- ราคาขายปลีก กิโลกรัม 100 บาทขึ้นไป
ราคาขายลูกอ๊อด
- ราคาขายส่ง กิโลกรัม 140 - 150 บาท
- ราคาขายปลีก กิโลกรัม 180 - 200 บาท
ราคาขายลูกกบ ที่ตัดหางแล้ว
- ลูกกบ อายุ 1 เดือน ตัวละ 1 บาท
- ลูกกบ อายุ 45 วัน - 2 เดือน ตัวละ 2-3 บาท
ผมมีบ่อเพาะลูกอ๊อดอยู่ 2 บ่อ แต่ละบ่อเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดได้บ่อละ 15-16 กิโลกรัม
ปัจจุบันผมมีแม่พันธุ์ที่สามารถเพาะลูกกบได้อยู่ 7 คู่ และมีพ่อแม่พันธุ์ อายุ 5-6 เดือน ที่เตรียมไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในปี 2556 อยู่ 1,000 ตัว
จากการเลี้ยงกบที่ผ่านมา ผมได้ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายจากการเลี้ยงกบ พบว่า กบกินอาหารสิ้นเปลืองมาก
การเลี้ยงกบในบ่อดิน จะต้องดูแลเรื่องระบบจัดการน้ำ การระบายน้ำ การให้อาหาร ตลอดจนการป้องกันเรื่องโรคกบ ศัตรูกบ จากการเลี้ยงที่ผ่านมายังไม่พบปัญหาเรื่องโรคกบ แต่พบศัตรูกบ นั่้นก็คือนก อีกา ที่คอยจะมาจับกินกบ และศัตรูํของลูกก็บ นั่นก็คืองู ที่มาวนเวียนรอบ ๆ บ่อกบ ผมต้องคอยออกไปส่องไฟดูตามบ่อกบทุกคืน เพื่อจัดการกับศัตรูกบ ด้วย
อัตราการรอดตายของลูกกบ 80-90% การเลี้ยงกบ ควรทดลองเลี้ยงลูกอ๊อดให้โตเป็นกบก่อน แล้วจะรู้ว่าปัญหาของการเลี้ยงลูกอ๊อดให้รอดตายได้ ก่อนที่จะโตเป็นกบต้องทำยังไงบ้าง เลี้ยงไป ศึกษาการเจริญเติบโตของลูกกบ ปัญหาการกัดกินกันของลูกกบ ปัญหาการตายของลูกกบ เกิดจากอะไร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อยากเลี้ยงบ้าง ดูจะไม่ง่ายเลย
ตอบลบขอเบอร์มือถือด้วยครับ
ตอบลบโทษทีลุงลืมเบิ่งมันอยุ่ข้างบนแหมะ
ตอบลบเบอร์ติดต่อไม่ได้เลยครับลุง
ตอบลบเบอร์ติดต่อไม่ได้เลยครับลุง
ตอบลบติดต่อผ่านเฟสบุ๊ก ได้ครับ เฟสชื่อ arthit boonmeerak บางทีผมทำงานอยู่ผมจะไม่รับโทรศัพท์นะครับ
ลบตอนนี้ส่งออกกิโลเท่าไหร่ครับ
ตอบลบสนใจอยากเลี้ยงค่ะ
ตอบลบ